จะรู้ได้อย่างไรว่า เบรครถ กำลังจะพัง

เบรคมีเสียงครูด เสียงแหลมดัง

    ส่วนใหญ่สาเหตุมาจากผ้าเบรคหมด จนทำให้เหล็กผ้าเสียดสีกับจานเบรก หากปล่อยไว้ ถึงขั้นต้องเจียรจานเบรกใหม่เลยนะ !!

ขณะเบรค รถยนต์เอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง

        อาการปัดเอียงนั้นบ่งบอกว่าเบรครถกำลังมีปัญหา หากเอียงไปทางซ้าย หมายความว่าระบบเบรคกำลังรวนให้ตรวจสอบระบบเบรคทางด้านขวา โดยอาจเกิดจากคราบน้ำมันหรือสารหล่อลื่นของเครื่องยนต์ช่วงล่างกระเด็นมาโดนจานเบรค จนทำให้ผิวลื่นมันและความฝืดลดลง

เกิดอาการเบรคสั่น

          สาเหตุจากจานเบรคเกิดการคดบิดตัว เนื่องจากถูกใช้งานรุนแรงกินไป ลูกปืนล้อหลวม น็อตล้อหลวม ผ้าเบรคสึกหรอไม่เท่ากัน อาการนี้เกิดได้ทั้งระบบดิสเบรกและดรัมเบรก

เบรกแข็งต้องใช้แรงมากกว่าปกติ หรือ “เบรคตื้อ”

          เวลาเหยียบเบรคแล้วเบรคไม่ค่อยอยู่ เกิดอาการเบรคแข็ง ต้องออกแรงเหยียบมากๆ อาจเกิดจากแรงดูดสุญญากาศของหม้อลมน้อย เนื่องจากปั้มดูดไดชาร์จเสียหรือผ้าในหม้อลมรั่ว วาล์ว PVC หรือ Combo Vale เสีย หรือสายลมรั่ว

แป้นเบรคต่ำต้องเหยียบเบรคลึกมาก เบรกถึงทำงาน หรือ “เบรคต่ำ”

           สาเหตุเกิดจากลูกยางแม่ปั้มเบรคบนสึกหรอหรือบวม จึงทำให้แรงดันเบรคลดลง จนต้องออกแรงเบรคมากขึ้น บางครั้งต้องเหยียบเบรคซ้ำ ๆ กัน หลาย ๆ ที

การดูแลรักษาระบบเบรค และข้อควรระวัง

ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องปีละครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้ระบบเบรกเกิดสนิม

น้ำมันเบรค ควรใช้ให้ตรงกับมารตราฐานที่ผู้ผลิตกำหนด

การเช็คระยะห่างผ้าเบรคในระบบดรั้มเบรค ระยะห่างระหว่างผ้าและจานเบรคที่มากขึ้น

ระดับน้ำมันเบรคลดต่ำลง ควรถอดจานเบรคออกมาทำความสะอาดและปัดฝุ่น จากนั้นจึงจัดให้ระยะผ้าเบรคให้ชิดขึ้น

การเจียรจานเบรค ทำได้ทั้งหมด 2 วิธี คือ การถอดจานเบรคมาเจียรด้วยเครื่องเจียรจาน และการใช้เครื่องเจียรจานแบบประชิดล้อ

การล้างและเปลี่ยนชุดซ่อมเบรค เบรคเป็นส่วนที่ถูกใช้งานบ่อยครั้ง ควรได้รับการเปลี่ยนชุดซ่อมอย่างน้อย 2-4 ปีต่อครั้ง