ข่าวสารและบทความ

7 อันตรายที่มากับหน้าฝน ที่คุณต้องรู้

7 อันตรายที่มากับหน้าฝน ที่คุณต้องรู้

หน้าฝนเป็นฤดูที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ฝนตกบ่อย ซึ่งนอกจากจะส่งผลต่อสุขภาพร่างกายแล้ว ยังสามารถก่อให้เกิดอันตรายที่อาจร้ายแรงถึงชีวิตได้ ดังนั้นเราจึงควรต้องใส่ใจระมัดระวังกับความปลอดภัยในช่วงหน้าฝนนี้เป็นอย่างยิ่ง

 

JAYMART ประกันภัยจึงได้รวบรวมข้อมูล 7 อันตรายในช่วงหน้าฝน และการระวังป้องกัน มาฝากดังนี้ค่ะ

 

 

1. อันตรายหน้าฝน จากอุบัติเหตุบนท้องถนน ในช่วงเวลาที่ฝนตก จะเป็นช่วงที่เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย เนื่องจากเมื่อฝนตก ถนนก็จะลื่น ทัศนวิสัยก็ไม่ดี ดังนั้นผู้ขับขี่ยานพาหนะบนท้องถนน ควรเพิ่มความระมัดระวัง และอย่ารีบร้อน หากจำเป็นต้องขับรถฝ่าฝน ก็ต้องทำด้วยความระมัดระวังที่สุด คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก เพราะอุบัติเหตุเมื่อเกิดขึ้นก็จะเป็นความสูญเสียทั้งตัวเองและผู้ร่วมถนน และแม้ว่าเราจะระวังอย่างดี ก็ยังมีโอกาสที่รถคันอื่นจะเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุได้อีกด้วย ดังนั้นหากพิจารณาแล้วว่า สภาพรอบตัวไม่เอื้ออำนวยต่อการขับขี่ ก็อย่าเสี่ยงดีกว่าค่ะ ควรรีบหาที่จอดพักก่อน โดยควรหาที่จอดในร่ม หรือในที่จอดรถของอาคาร ก็จะมีความปลอดภัยยิ่งขึ้น และนอกจากนี้เรายังควรตรวจเช็คสภาพรถให้พร้อมเสมอสำหรับหน้าฝน ไม่ว่าจะเป็น ระบบเบรก ระบบไฟ ทุกส่วนต้องอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ดี ก็จะเพิ่มความปลอดภัยให้กับเรามากยิ่งขึ้นเช่นกันค่ะ

 

 

 

 

 

2. อันตรายหน้าฝน จากอุบัติเหตุจากการทำงานกลางแจ้ง สำหรับผู้ที่ทำงานกลางแจ้ง อุบัติเหตุที่มาพร้อมกับฝนที่พบบ่อยที่สุดก็คือการลื่นไถล หรือเมื่อลมแรงมีฝุ่นละอองกระเด็นเข้าตา ก็อาจเกิดปัญหากับดวงตา หรือส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุจากการมองเห็นไม่ชัดเจนได้อีกด้วย นอกจากนี้ ยังควรระมัดระวังสิ่งของที่ตกหล่นจากที่สูง หรือสิ่งของที่ปลิวมากับลม ดังนั้น หากต้องทำงานกลางแจ้ง ควรเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ และสวมเครื่องป้องกันหรือเสื้อผ้าที่เหมาะสม และหากฝนตกหนักเกินกว่าจะทำงานต่อได้ ก็ควรหยุดพักก่อน อย่าฝืนเสี่ยงทำต่อ นอกจากนี้ หากต้องเดินทางกลับบ้าน ให้เลือกสวมใส่เครื่องแต่งกายที่เหมาะสมในการป้องกันตัวเอง เช่น เสื้อกันฝน รองเท้าที่ไม่ลื่น หรือรองเท้าบูท เป็นต้น ซึ่งเป็นไอเทมสำคัญในหน้าฝน ที่ควรพกไว้

 

 

3. อันตรายหน้าฝน จากอุบัติเหตุในบริเวณบ้าน แม้แต่ในบ้านของเราเอง หากฝนตกหนัก พายุเข้า ลมแรง ก็อาจเกิดอันตรายหรืออุบัติเหตุได้ไม่ต่างกับการอยู่กลางแจ้งเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการลื่นล้ม มีฝุ่นละอองปลิวเข้าตา หรือมีวัตถุสิ่งของปลิวมาตามลม ซึ่งไม่ว่าเป็นของชิ้นใหญ่หรือเล็ก ก็อาจทำให้เราบาดเจ็บได้ทั้งนั้น ดังนั้นจริง ๆ แล้ว หากไม่จำเป็น ก็ไม่ควรออกนอกตัวบ้านในขณะที่ฝนตก ลมแรง หากต้องการตรวจเช็คสิ่งใดรอบบ้าน ถ้ารอได้ก็ควรรอให้ฝนหยุดตกก่อน และหากจำเป็นต้องออกไปจริง ๆ ก็ควรใส่เสื้อกันฝน สวมรองเท้าที่ไม่ลื่น ใส่เฟสชิลด์ และเดินอย่างระมัดระวัง หากฟ้ามืด ก็ให้นำไฟฉายไปด้วย นอกจากนี้ เมื่อฝนหายตกแล้ว ก็ยังต้องระมัดระวังเช่นกัน เพราะพื้นนอกบ้านก็อาจยังเปียกลื่นอยู่ และในช่วงเวลาปกติก่อนที่ฝนจะตก เราก็ควรหมั่นตรวจสอบดูแลรักษาบ้านให้อยู่ในสภาพที่ปลอดภัยไว้ก่อนค่ะ

 

 

 

 

 

4. อันตรายหน้าฝน จากโรคระบาด ในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ความเย็นและความชื้นที่มากับฝนนั้น เป็นสภาวะที่เอื้อต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโรคอย่างมาก ซึ่งโรคที่มักมากับหน้าฝนนั้น ก็จะมี โรคระบบทางเดินหายใจ อย่างไข้หวัดใหญ่ และปอดอักเสบ โรคระบบทางเดินอาหาร อย่าง อุจจาระร่วง และ อาหารเป็นพิษ นอกจากนี้ ยังมีโรคที่เกิดจากยุง ได้แก่ ไข้เลือดออก และ ชิคุนกุนยา และโรคจากการสัมผัส หรือติดเชื้อจากสิ่งสกปรก อย่าง ฉี่หนู ตาแดง มือ-เท้า-ปาก ดังนั้น เราจึงควรดูแลสุขภาพร่างกายให้ดี รวมถึง การรักษาสุขอนามัย รักษาร่างกายให้อบอุ่น หลีกเลี่ยงการสัมผัสร่างกายผู้อื่น หรือการใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น หมั่นล้างมือบ่อย ๆ กินร้อน ใช้ช้อนตัวเอง ระวังยุงกัด สวมเสื้อผ้าที่เหมาะสม อย่าลืมสวมหน้ากากอนามัยและรักษาระยะห่างเสมอ ซึ่งนอกจากจะป้องกันโควิด-19 แล้ว ก็ยังช่วยป้องกันการติดเชื้อโรคอื่น ๆ ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

 

 

 

 

 

5. อันตรายหน้าฝน จากไฟดูด ไฟช็อต อีกหนึ่งอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ในช่วงหน้าฝน ก็คือไฟดูดหรือไฟช็อต ซึ่งมักเกิดจากอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีไฟรั่ว ดังนั้น ควรหมั่นเช็คสภาพเครื่องใช้ไฟฟ้าและสายไฟภายในบ้านให้ดี ว่าอยู่ในสภาพดีพร้อมใช้งาน และไม่ปล่อยให้เปียกชื้น หากมีจุดไหนชำรุด ต้องรีบหาช่างผู้ชำนาญมาซ่อมแซม อย่าเสี่ยงใช้งานต่อ หรือลองซ่อมเองโดยไม่มีความรู้ ที่สำคัญควรติดตั้งเครื่องตัดไฟฟ้าลัดวงจรภายในบ้าน เมื่อเกิดไฟดูด หรือไฟช็อต เครื่องก็จะช่วยตัดกระแสไฟได้อัตโนมัติ นอกจากนี้ การต่อสายดินให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างเช่น เครื่องทำน้ำอุ่น หรือเครื่องซักผ้า ก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากในการเพิ่มความปลอดภัย ทั้งนี้หากพบผู้ถูกไฟฟ้าดูด ให้หาทางตัดกระแสไฟฟ้าก่อนทันที เช่น การปลดสวิตช์ หรือ คัทเอาท์ และอย่าใช้มือเปล่าแตะต้องตัวผู้ถูกไฟฟ้าดูด ให้ใช้วัตถุที่ไม่เป็นฉนวนนำไฟฟ้ามาช่วย เช่น เชือกแห้ง สายยาง ถุงมือยาง ผ้าแห้งพันมือให้หนา แล้วผลัก ฉุด หรือ เขี่ยตัวผู้ป่วยให้หลุดจากบริเวณนั้นโดยเร็วที่สุด และโทรแจ้งสายด่วน 1669 ทันที

 

 

6. อันตรายหน้าฝน จากฟ้าผ่า เมื่อเกิดฝนตกฟ้าคะนอง บริเวณพื้นที่โล่งแจ้งจะเป็นจุดที่อันตรายที่สุด ดังนั้นหากเราบังเอิญอยู่ในที่โล่งแจ้ง ก็ให้รีบหาที่กำบังที่ปลอดภัย เช่น อาคารขนาดใหญ่ หรือสิ่งปลูกสร้างที่แข็งแรง และห้ามหลบบริเวณใต้ต้นไม้ โดยหากตกอยู่ในสถานการณ์บังคับที่ต้องอยู่กลางแจ้ง หาที่หลบไม่ได้ ก็ให้หมอบนั่งยอง ๆ ให้ตัวอยู่ต่ำที่สุด เขย่งปลายเท้าให้ตัวสัมผัสพื้นน้อยที่สุด แต่อย่านอนลงไปกับพื้น เพราะกระแสไฟอาจวิ่งมาตามพื้นได้ พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสิ่งนำไฟฟ้า และให้ถอดเครื่องประดับที่เป็นสิ่งนำไฟฟ้าออก เช่น ทอง เงิน นาค รวมไปถึงให้งดการใช้โทรศัพท์มือถือในที่โล่งแจ้ง เนื่องจากอาจเหนี่ยวนำกระแสไฟฟ้าเข้ามาในโทรศัพท์มือถือได้ และหากพบผู้ถูกฟ้าผ่า ให้รีบเคลื่อนย้ายผู้ถูกฟ้าผ่าไปยังที่ที่ปลอดภัย เพื่อป้องกันการถูกฟ้าผ่าซ้ำอีก พร้อมทั้งโทรเรียกสายด่วน 1669 ทันที ทั้งนี้ ผู้ช่วยเหลือสามารถสัมผัสตัวผู้ถูกฟ้าผ่าได้ทันที เพราะจะไม่มีกระแสไฟฟ้าเหลืออยู่ในตัว และขณะรอรถพยาบาล หากผู้ถูกฟ้าผ่าหัวใจหยุดเต้น หมดสติ ต้องรีบช่วยเหลือฟื้นคืนชีพ หรือ CPR อย่างถูกต้อง

 

 

 

 

 

7. อันตรายหน้าฝน จากสัตว์ร้ายต่าง ๆ สัตว์ร้ายมีพิษ อย่างเช่น ตะขาบ แมงป่อง แมงมุม งู มักชอบอยู่บริเวณที่มีความชื้น จึงไม่แปลกที่ในหน้าฝน เราอาจพบสัตว์ต่าง ๆ เหล่านี้ในพงหญ้า ในสนาม หรือบริเวณเปียกชื้นในบ้าน วิธีป้องกันก็คือ ควรหมั่นทำความสะอาดบ้าน และจัดสิ่งของในบ้านและบริเวณบ้านให้เรียบร้อย เพื่อไม่ให้เป็นที่หลบซ่อนของสัตว์มีพิษได้ และให้ระมัดระวังเมื่อต้องเดินไปบริเวณที่มีหญ้าสูง หรือเข้าไปในที่รก ควรสวมรองเท้าบูทหรือรองเท้าหุ้มข้อป้องกันไว้ ทั้งนี้หากมีผู้ถูกงูกัด ห้ามใช้ปากดูดพิษ ให้ล้างแผลให้สะอาด บีบเลือดบริเวณบาดแผลออกเท่าที่ทำได้ และไม่กินยาที่มีส่วนผสมของแอสไพริน เพราะจะไปเร่งให้พิษงูทำงานเร็วขึ้น พยายามให้บริเวณที่ถูกงูกัดเคลื่อนไหวให้น้อยที่สุด รัดผ้าเหนือแผลให้แน่นพอสมควร แต่ห้ามรัดแน่นหรือขันชะเนาะ ที่สำคัญให้รีบพาผู้ป่วยไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด และพยายามจำลักษณะชนิดของงูที่กัดให้ได้ ทั้งนี้ หากพบเจอสัตว์มีพิษร้ายและไม่สามารถจัดการเองได้ หรือหากโดนสัตว์ร้ายกัด สามารถโทรขอความช่วยเหลือได้ที่ สายด่วน 1669

 

 

 

และแม้ว่าเราจะป้องกันอันตรายต่าง ๆ ที่มากับหน้าฝนได้เป็นอย่างดีแล้ว แต่เหตุการณ์ที่เราไม่อาจควบคุมได้ในด้านอื่น ๆ ก็ยังมีโอกาสอาจเกิดขึ้นได้เสมอ เราจึงควรหาตัวช่วยเพิ่มความอุ่นใจให้กับตัวเองและครอบครัว อย่างประกันไข้เลือดออก จาก เจมาร์ท ประกันภัย ที่ให้ความคุ้มครองทั้งค่ารักษาพยาบาล และเงินชดเชยรายวัน โดยสามารถติดต่อสอบถามประกันภัยที่ได้ที่ 02 099 0555 ต่อ 4262 หรือที่ ที่ LINE : @jaymartinsurance ค่ะ

 

 

 

By JAYMART Staff : RIYA