ข่าวสารและบทความ

7 จุดสำคัญ เพื่อดูแลบ้านให้ปลอดภัยในหน้าฝน

7 จุดสำคัญ เพื่อดูแลบ้านให้ปลอดภัยในหน้าฝน

ในช่วงที่ฝนฟ้าอากาศตกหนักบ่อย ๆ เช่นนี้ มีหลายจุดในบ้านที่เราไม่ควรจะละเลยเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่อความปลอดภัยของทั้งตัวเรา บ้านของเรา และแม้แต่เพื่อนบ้านของเรา

 

 

JAYMART ประกันภัย จึงได้รวบรวม 7 จุดสำคัญของบ้าน ที่เราจะต้องใส่ใจ ตรวจเช็ค ตรวจสอบ เพื่อความปลอดภัย ในช่วงหน้าฝนนี้ มาฝากกันค่ะ

 

 

 

 

 

1. ระบบไฟฟ้า : ตรวจเช็คระบบไฟฟ้าให้มั่นใจว่าไม่เปียกชื้น ไม่ว่าจะเป็นปลั๊กไฟ สวิตช์ไฟ และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ที่อาจเปียกชื้นจากน้ำฝน และทำให้เกิด ไฟช็อต ไฟดูด ได้ โดยก่อนใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าใด ๆ ต้องสังเกตให้ดีว่าอุปกรณ์ดังกล่าวของเรานั้น มีลักษณะที่ผิดปกติหรือไม่ เช่นมีน้ำรั่วซึม หากพบความผิดปกติ ก็ต้องรีบเปลี่ยนใหม่ หรือเรียกใช้บริการซ่อมแซมจากช่างผู้ชำนาญ ไม่ควรเสี่ยงใช้งาน หรือซ่อมเองโดยไม่มีความรู้ความชำนาญ นอกจากนี้ปลั๊กไฟและสวิตช์ไฟที่อยู่นอกอาคาร ควรเลือกแบบที่มีฝาเปิดปิด เพื่อช่วยให้มีความปลอดภัยยิ่งขึ้น

 

 

2. ประตูบ้าน : ตรวจเช็คประตูบ้านให้ดี ว่าสามารถเปิดปิดและล็อคได้ตามปกติ เพราะในช่วงที่ฝนตกและเกิดความเปียกชื้น ไม้จะดูดความชื้นมา ทำให้ ขอบบานประตูไม้ หรือขอบวงกบ อาจบวมขึ้นมา และอาจปิดไม่ลง โดยการแก้ไขในเบื้องต้น สามารถใช้กระดาษทรายหยาบมาขัดได้ แต่หากวิธีนี้ยังไม่สามารถแก้ไขได้ ให้รีบเรียกช่างมาซ่อมแซม หรือเปลี่ยนประตูเป็นประตู PVC ที่มีคุณสมบัติกันน้ำ ซึ่งควรรีบทำทันที เพราะประตูบ้านนั้น เป็นด่านแรกของความปลอดภัยของคนในบ้านค่ะ และนอกจากนี้ หากน้ำฝนสามารถสาดเข้าไปถึงประตูบ้านหรือหน้าต่างได้ ก็ให้ทำกันสาดเพื่อช่วยป้องกันค่ะ

 

 

3. พื้นรอบบ้าน : สำรวจพื้นรอบตัวบ้าน หากพบคราบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นคราบดิน คราบรา หรือตะไคร่ ซึ่งจะทำให้เกิดความลื่น ก็ให้หมั่นระวังรักษาความสะอาด ขัด ถู เช็ดให้แห้งเพื่อป้องกันอุบัติเหตุต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็ก ๆ หรือผู้สูงอายุ ก็ยิ่งต้องเพิ่มความใส่ใจ ระมัดระวังมากยิ่งขึ้นค่ะ รวมถึงให้สังเกตดูสัตว์ไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ รอบบ้าน เช่น ตะขาบ แมงป่อง งู ฯลฯ โดยหากพบสัตว์ต่าง ๆ เหล่านี้ สามารถแจ้งขอความช่วยเหลือได้ที่ สายด่วน 1669

 

 

 

 

 

4. หลังคา ฝ้า ผนัง : ตรวจเช็คความสมบูรณ์ของหลังคา ฝ้า ผนังให้ดี หากพบรอยร้าว รูรั่ว คราบน้ำ คราบตะไคร่ ควรรีบติดต่อช่างมาซ่อมแซมทันที เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อส่วนอื่นของบ้านตามมา ดังนั้นหากเป็นไปได้ ให้หมั่นเช็ค 3 จุดนี้ เพื่อเตรียมการแก้ไขปัญหาก่อนที่จะถึงหน้าฝน เพราะการแก้ไขในช่วงหน้าฝน ก็อาจทำได้ไม่ง่ายนัก

 

 

5. รางน้ำ ท่อระบายน้ำ : ตรวจเช็ครางน้ำไม่ให้มีสิ่งอุดตัน โดยควรหมั่นทำความสะอาดรางน้ำฝน ด้วยการกำจัดเศษใบไม้ กิ่งไม้ เศษขยะต่าง ๆ ออกจากรางน้ำให้หมด เพื่อไม่ให้เกิดความอุดตันปิดกั้นทางที่น้ำจะไหลไป เพราะหากเกิดความอุดตัน น้ำก็อาจไหลย้อนเข้าสู่ตัวบ้านได้ นอกจากนี้ เพื่อให้ระบบน้ำไหลสะดวก ให้ทำความสะอาดท่อระบายน้ำด้วยเช่นกัน โดยให้ตักขยะ เศษใบไม้ ดิน ขี้โคลน ออกจากบ่อดักขยะภายในบ้าน เพื่อไม่ให้ท่อระบายน้ำอุดตัน 

 

 

 

6. จุดน้ำขัง : สำรวจภายในบริเวณบ้าน ให้มั่นใจว่าไม่มีสิ่งใดที่น้ำขังได้ ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ ที่อาจกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายที่เป็นสาเหตุของ โรคไข้เลือดออก ได้ เช่น แทงค์น้ำ กระป๋อง กระถาง อ่าง กะละมัง ฯลฯ โดยหากมีสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ ให้จับคว่ำ หรือ หาฝาปิด หากมีจานรองตู้กับข้าว ก็ให้ใส่เกลือ หรือน้ำสมสายชูไว้ นอกจากนี้ สิ่งไหนที่ดูแล้วเก่ามากหรือหมดประโยชน์ ก็ควรพิจารณาทิ้งไป หรือให้คนอื่นที่จะทำประโยชน์ได้ต่อไป เพื่อกำจัดความรกที่อาจกลายเป็นจุดน้ำขังได้

 

 

 

 

 

7. ต้นไม้ : หากบ้านของคุณมีต้นไม้ขนาดกลางหรือขนาดใหญ่ปลูกไว้ เมื่อเกิดฝนตกหนัก ลมกรรโชกแรง ก็อาจทำให้กิ่งไม้หัก แล้วปลิวหรือหล่นลงมาสร้างความเสียหายให้กับตัวบ้านหรือปลิวมาโดนคนในบ้านได้ ในขณะเดียวกัน ก็ยังอาจหล่นไปนอกรั้วบ้านและสร้างความเสียหายให้กับเพื่อนบ้านหรือคนทั่วไปได้อีกเช่นกัน ดังนั้น คุณควรเตรียมความพร้อมตัดแต่งกิ่งไม้ให้เรียบร้อยก่อนที่จะเกิดปัญหาค่ะ 

 

 

และแม้ว่าเราจะดูแลบ้านอย่างดีเพียงใด ป้องกันตัวเองและครอบครัวดีเพียงใด แต่เหตุไม่คาดคิด ก็อาจเกิดขึ้นได้เสมอ ดังนั้นเราจึงควรหาตัวช่วยเพิ่มความอุ่นใจให้กับตัวเองและครอบครัว อย่างประกันภัยไข้เลือดออก ของ เจมาร์ทประกันภัย สนใจติดต่อสอบถามปรึกษาประกันภัยที่เหมาะสมกับคุณได้ที่ 02 099 0555 ต่อ 4262 หรือ ที่ LINE : @jaymartinsurance ค่ะ

 

 

 

By JAYMART Staff : RIYA