ข่าวสารและบทความ

9 ทิปส์ ง่าย ๆ ขับรถ ให้ประหยัดน้ำมัน

9 ทิปส์ ง่าย ๆ ขับรถ ให้ประหยัดน้ำมัน

เชื่อหรือไม่คะว่า วิธีการขับรถ หรือวิธีที่คุณจัดการเกี่ยวกับรถยนต์ของคุณนั้น สามารถช่วยประหยัดน้ำมันได้  อย่างที่คุณคิดไม่ถึง JAYMART ประกันภัย จึงได้รวบรวมทิปส์เหล่านั้นมาฝาก เราลองมาดูกันว่า จะมีวิธีอะไรบ้างที่จะช่วยประหยัดน้ำมันได้อย่างง่าย ๆ

 

 

 

 

1. วางแผนก่อนเดินทาง : ก่อนเดินทาง เราควรวางแผนว่าจะไปที่ไหนบ้าง ศึกษาเส้นทางให้ดี เพื่อหลีกเลี่ยงรถติด หรือแม้แต่การออกนอกเส้นทาง โดยเฉพาะสถานที่ ที่เรายังไม่เคยไปมาก่อน และในกรณีที่ไม่ได้มีการกำหนดเวลา การวางแผนจะทำให้เรารู้ว่าควรเดินทางไปที่ใดก่อนที่ใด เพื่อที่จะไม่ย้อนกลับไปกลับมาให้เปลืองน้ำมัน และหากทำได้ ควรหลีกเลี่ยงช่วงเวลาที่การจราจรคับคั่ง นอกจากจะช่วยประหยัดน้ำมันได้แล้ว ก็ยังไม่ต้องเสียสุขภาพจิตกับรถติดอีกด้วย

 

2. จัดข้าวจัดของ : นอกจากการวางแผนการเดินทางแล้ว การจัดการสิ่งของบนรถนั้น ก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน คุณควรวางแผนจัดเตรียมสิ่งของที่จำเป็นต้องใช้ในแต่ละวัน โดยนำของขึ้นรถไปเท่าที่จำเป็นต้องใช้จริง ๆ เท่านั้น เพราะน้ำหนักรถ จะมีผลต่อการใช้พลังงานของรถ ซึ่งก็จะส่งผลให้กินน้ำมันมากขึ้น ดังนั้นการนำสิ่งของที่ไม่จำเป็นออกจากรถ นอกจากจะช่วยให้รถของเราน้ำหนักเบาขึ้นแล้ว ก็ยังทำให้รถสะอาด ดูดี เป็นระเบียบเรียบร้อย พร้อมต่อการใช้งานอีกด้วย

 

 

3. อย่าซิ่งมาก : ยิ่งขับรถเร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีผลต่อการใช้พลังงานน้ำมันมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งโดยปกติรถยนต์ทั่วไป จะประหยัดน้ำมันกว่า เมื่อวิ่งด้วยความเร็วประมาณ 50-80 กิโลเมตร/ชั่วโมง นอกจากนี้ ควรวิ่งด้วยความเร็วคงที่สม่ำเสมอตลอดเส้นทาง ซึ่งจะช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างราบรื่น และช่วยลดอัตราการใช้เชื้อเพลิงได้ โดยหากวิ่งทางไกล ควรรักษาความเร็วอย่างสม่ำเสมอไว้ไม่เกิน 80-110 กิโลเมตร/ชั่วโมง และไม่ควรเปลี่ยนเลน หรือขับแซงบ่อย ๆ เพราะการแซง ต้องใช้กำลังเครื่องเพื่อเร่งความเร็วให้มากกว่ารถที่เราจะไปแซง แต่หากจำเป็น ควรเว้นระยะห่างจากรถข้างหน้าซักหน่อย และเมื่อได้จังหวะเปลี่ยนเลน จะได้เร่งเพียงเบา ๆ เพื่อไม่ต้องใช้กำลังเครื่องมากเกินความจำเป็น

 

4. อย่าออกตัวแรง : หลังสตาร์ทรถ ไม่จำเป็นต้องอุ่นเครื่องนานนัก เพียงครึ่งนาทีก็เพียงพอแล้ว และค่อย ๆ ออกตัวไปอย่างช้า ๆ นอกจากนี้ ห้ามออกตัวแบบกระชาก หรือพุ่งไปด้วยความเร็วสูง เพราะนอกจากจะสิ้นเปลืองพลังงานของรถแล้ว ยังทำให้ส่วนต่าง ๆ ของรถสึกหรอได้ไวขึ้น และยังเพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุอีกด้วย

 

5. เข้าเกียร์ว่าง : ขณะที่จอดรถติด หรือจอดรอ ควรเข้าเกียร์ว่าง (N) แทนเกียร์เดินหน้า (D) นอกจากจะช่วยประหยัดน้ำมันได้อีกทางหนึ่งแล้ว ก็จะได้ไม่ต้องเหยียบเบรกรอไว้ตลอดเวลา แต่หากจอดรถรออะไรก็ตามที่เกิน 5 นาทีขึ้นไป การสตาร์ทรถไว้ จะสิ้นเปลืองน้ำมันมากพอสมควร หากทำได้ ให้หาที่จอดรถที่ถูกต้องเหมาะสม และปลอดภัย แล้วดับเครื่องยนต์จอดไปเลยจะดีกว่า นอกจากนี้ ในการขับรถ หากไม่ได้ต้องการเปลี่ยนเกียร์ ก็ไม่ควรเหยียบคลัทช์ค้างไว้ เพราะนอกจากจะกินน้ำมันเพิ่มขึ้นแล้ว ก็ยังทำให้คลัทช์เสื่อมเร็วขึ้นอีกด้วย

 

6. ประหยัดเบรก : กรณีที่ทำได้ ให้ใช้การชะลอแทนการเบรก โดยการประเมินระยะทางที่ปลอดภัย ระหว่างรถของเราและรถคันหน้าที่จอดก่อนเรา จากนั้นกะระยะปล่อยคันเร่งเพื่อลดระดับความเร็วลง ให้รถไหลไปเรื่อย ๆ ตามแรงเฉื่อย ก็จะช่วยประหยัดน้ำมันไปได้อีก นอกจากนี้ ควรระมัดระวัง อย่าเบรกกะทันหัน เพราะนอกจากสิ้นเปลืองพลังงานแล้ว ก็ยังมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้มากอีกด้วย

 

 

7. ประหยัดแอร์ : แอร์รถเปิดแรง ๆ ก็กินน้ำมันเหมือนกันนะคะ ดังนั้นควรปรับอุณหภูมิแอร์ที่เหมาะสม ซึ่งจะอยู่ที่ประมาณ 23-25 องศาเซลเซียส เพื่อไม่ให้คอมเพรสเซอร์ทำงานหนัก เป็นภาระต่อเครื่องยนต์ส่งผลให้สิ้นเปลืองน้ำมันได้  และเมื่อใกล้ถึงที่หมาย หากอากาศไม่ร้อนจนเกินไป ความเย็นของแอร์ก็ยังฉ่ำอยู่ คุณก็สามารถปิดแอร์ก่อนถึงที่หมาย ก็จะช่วยประหยัดน้ำมันไปได้อีก นอกจากนี้ อย่าลืมตรวจเช็คเครื่องปรับอากาศในรถอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ระบบทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

 

8. เช็คเครื่องยนต์สม่ำเสมอ : การตรวจสอบเครื่องยนต์ให้เป็นปกติอย่างสม่ำเสมอ ก็จะช่วยประหยัดน้ำมันได้ด้วย เนื่องจากความผิดปกติของเครื่องยนต์ก็จะทำให้กินน้ำมันมากขึ้น และยังทำให้เครื่องยนต์มีอายุการใช้งานสั้นลงอีกด้วย ดังนั้นจึงควรตรวจสอบระบบและการทำงานต่าง ๆ ของรถอย่างสม่ำเสมอ เช่น น้ำมันเครื่อง แบตเตอรี่ ไส้กรองอากาศ ระบบระบายความร้อน หัวเทียน การจุดระเบิด การเผาไหม้ของเชื้อเพลิง ฯลฯ

 

9. เช็คลมยางสม่ำเสมอ : ควรตรวจเช็คความดันลมยางให้พอดี หากปล่อยให้ลมยางอ่อนจะทำให้เกิดแรงเสียดสีมากขึ้น เครื่องยนต์ก็จะทำงานหนักขึ้น และก็ทำให้เปลืองน้ำมันโดยไม่จำเป็น และถ้าหากเติมลมยางมากเกินไป แม้อาจไม่ส่งผลต่อความสิ้นเปลืองโดยตรง แต่ก็อาจส่งผลเรื่องความปลอดภัยได้ เพราะยางอาจระเบิดระหว่างขับรถ ฉะนั้น ควรตรวจสอบลมยางอยู่เสมอ และควรเติมลมให้ได้ตามมาตรฐานที่กำหนดทั้งล้อหน้าและล้อหลัง  

 

 

9 ทิปส์ที่นำมาฝากนี้ นอกจากจะช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้มากขึ้นแล้ว ก็ยังส่งผลต่ออายุใช้งานรถยนต์ และส่งผลต่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่อีกด้วยค่ะ

แต่แม้ว่าเราจะเตรียมพร้อมได้อย่างดีเพียงใด เหตุการณ์ไม่คาดคิด ก็อาจเกิดขึ้นได้เสมอ เราจึงควรหาตัวช่วยเพิ่มความอุ่นใจ อย่าง ประกันภัยรถยนต์ ป.3+ รายเดือน ที่ให้ความคุ้มครองด้วยทุนประกัน 100,000 บาท เบี้ยอยู่ที่ 549 บาท/30 วัน ทั้งยังได้รับกรมธรรม์ทันที  และที่สำคัญ มีบริการเตือนต่ออายุโดยอัตโนมัติ หมดห่วง หมดกังวลว่ากรมธรรม์จะขาด ความคุ้มครองจะหมด สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ 02 099 0555 ต่อ 4262 หรือที่ LINE : @jaymartinsurance ค่ะ

 

 

By JAYMART Content Team : RIYA