15 วิธีดูแลสุขภาพ ให้ปลอดภัยจากฝุ่น PM 2.5

ฝุ่น PM 2.5 ยังคงเป็นปัญหามลพิษใกล้ตัวที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ โดยเฉพาะกลุ่มเด็กเล็ก ผู้สูงอายุและผู้มีโรคประจำตัว เจมาร์ท ประกันภัย จึงได้รวบรวม 15 วิธีดูแลสุขภาพ อย่างไรให้ปลอดภัยจากฝุ่น PM 2.5 เพื่อลดความเสี่ยงต่อสุขภาพ มาฝากกันค่ะ   

เช็กและติดตามข่าวสาร  
ติดตามคุณภาพอากาศฝุ่น PM 2.5 เสมอ โดยเฉพาะเมื่อต้องออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน โดยติดตามข่าวสาร หรือใช้แอปพลิเคชันตรวจสอบคุณภาพอากาศอยู่เสมอ เพื่อช่วยในการวางแผนทำกิจกรรมหรือแผนเดินทาง ซึ่งจะช่วยให้เราปลอดภัยจากฝุ่น PM 2.5 ได้  

ปิดประตูหน้าต่างมิดชิด  
หากคุณภาพอากาศอยู่ในช่วงภาวะ PM 2.5 สูง ควรหลีกเลี่ยงการออกนอกอาคารสถานที่ และควรปิดประตูและหน้าต่างให้สนิทเพื่อป้องกันฝุ่น PM 2.5 เข้ามาภายในบ้านหรืออาคาร  

หลีกเลี่ยงความแออัด  
หากจำเป็นต้องออกไปทำธุระนอกบ้าน ควรวางแผนหลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีค่าฝุ่น PM 2.5 สูง หรือเส้นทางที่มีการจราจรหนาแน่น และหากเลือกได้ ก็ให้เลือกไปสถานที่ที่ไม่แออัด หรือเลือกไปในเวลาที่มีคนน้อยกว่า  

เครื่องฟอกอากาศช่วยได้  
ควรหาเครื่องฟอกอากาศที่สามารถกรองฝุ่น PM 2.5 ได้ มาเป็นตัวช่วย โดยเฉพาะหากใช้เวลาอยู่ภายในบ้านหรืออาคารเป็นเวลานาน อากาศอาจไม่ไหลเวียน เครื่องฟอกอากาศ นอกจากจะช่วยฟอกอากาศ กรองฝุ่นละออง ฝุ่นเชื้อโรคต่าง ๆ แล้ว ยังช่วยกรองกลิ่น และรักษาสมดุลความชื้นภายในบ้านอีกด้วย   

ทำความสะอาดร่างกาย  
เมื่อออกนอกบ้านแม้ว่าจะป้องกันอย่างดี แต่เมื่อกลับมาบ้านก็ควรรีบนำเสื้อผ้าไปซัก และทำความสะอาดชำระล้างร่างกาย เพื่อกำจัดฝุ่นละอองและสิ่งแปลกปลอมที่อาจติดผิวหนังมา พร้อมทาโลชั่นหรือครีมบำรุงผิวกันผิวแห้ง 

สวมแว่นตากันฝุ่น  
สำหรับผู้ที่จำเป็นต้องเดินทางไปในสถานที่เสี่ยงฝุ่น PM 2.5 โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ขับขี่มอเตอร์ไซค์ นอกจากการสวมใส่หน้ากากที่ได้มาตรฐานแล้ว ก็ควรมีแว่นตาสำหรับใส่กันฝุ่นเพื่อช่วยป้องกันดวงตาของคุณจากฝุ่นและมลพิษต่าง ๆ อีกด้วย   

สวมหน้ากากอนามัยที่เหมาะสม  
หากจำเป็นต้องออกไปทำธุระนอกบ้าน ในช่วงที่มีค่าฝุ่น PM 2.5 สูง จะต้องใส่หน้ากากอนามัยที่ได้มาตรฐาน สามารถกรองฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 0.3 ไมครอนได้ ซึ่งไม่ใช่หน้ากากอนามัยทั่วไป (Surgical Mask) ที่มักไม่สามารถกรองฝุ่นที่มีขนาดเล็กมากได้ และต้องระบุชัดเจนด้วยว่าช่วยป้องกันฝุ่น PM 2.5 ได้ เช่น N95 หรือ KF94   

ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ  
กรณีที่รู้สึกคัดจมูก คัน ระคายเคือง หรือมีน้ำมูก ให้ทำความสะอาดล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ เพื่อชำระล้างสิ่งแปลกปลอมที่อาจเข้ามาติดอยู่ในโพรงจมูกออก  

ล้างตาด้วยน้ำเกลือ  
อีกส่วนของร่างกายที่ต้องให้ความสำคัญและทำความสะอาด ก็คือดวงตา หากมีอาการระคายเคือง สามารถล้างตาด้วยน้ำเกลือ และใช้น้ำตาเทียมหยอดตา เพื่อบรรเทาอาการระคายเคืองตาจากฝุ่นละออง ตลอดจนให้ความชุ่มชื้นและลดอาการตาแห้ง ทั้งนี้ ห้ามขยี้ตาโดยเด็ดขาด  

งดกิจกรรมกลางแจ้ง  
หากเช็กสภาพอากาศแล้วว่ามีค่าฝุ่น PM 2.5 สูง ก็ควรงดออกกำลังกายนอกบ้าน เช่น งดวิ่งหรือตีแบดในสวนสาธารณะ แต่เปลี่ยนมาออกกำลังกายภายในตัวอาคารแทน และควรหลีกเลี่ยงการสวมหน้ากาก N95 ขณะออกกำลังกายด้วย เนื่องจากอาจเสี่ยงต่อการขาดออกซิเจนได้ นอกจากนี้ควรงดการออกกำลังกายที่ทำให้หายใจแรงหรือเร็วมาก เพราะอาจทำให้หายใจเอาฝุ่นเข้าสู่ร่างกายมากขึ้น  

ปรึกษาแพทย์  
หากพบอาการผิดปกติต่าง ๆ ที่น่ากังวล ไม่ว่าจะเป็นผื่นคัน ระคายเคืองจมูก ระคายเคืองตา หรืออาการที่บ่งบอกถึงภูมิแพ้ ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อเช็กร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากมีอาการปวดศีรษะ เหนื่อยหอบ หายใจติดขัด ตาพร่ามัว  แขนขาอ่อนแรง ปากเบี้ยว ให้รีบไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุด  

สร้างเกราะป้องกันให้ร่างกาย  
นอกจากการหลีกเลี่ยงฝุ่น PM 2.5 แล้ว การสร้างความแข็งแรงจากภายในร่างกาย ก็จะช่วยลดโอกาสเกิดโรคหรืออาการไม่พึงประสงค์จาก ฝุ่น PM 2.5 ได้ โดยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอนหลับอย่างเพียงพอ และหลีกเลี่ยงการดื่มสุราและการสูบบุหรี่   

ตรวจสภาพรถให้อยู่ในสภาพดี  
แต่หากคุณมีความจำเป็นต้องเดินทางด้วยรถยนต์ ก็จะต้องตรวจสอบรถยนต์อย่างสม่ำเสมอให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น ท่อไอเสีย ไส้กรอง หัวฉีดปั๊มน้ำมัน ฯลฯ เพราะนอกจากจะช่วยเรื่องความปลอดภัยแล้ว ยังมีส่วนช่วยลดมลพิษและการเกิดฝุ่น PM 2.5 อีกด้วย   

ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว  
อีกวิธีที่จะสามารถช่วยลดปริมาณฝุ่น PM 2.5 ได้ คือ การใช้บริการขนส่งสาธารณะให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น รถไฟฟ้า รถใต้ดิน หรือแม้แต่ร่วมเดินทางไปกับผู้อื่นแทนการใช้รถยนต์ส่วนตัวที่นั่งกันเพียงหนึ่งหรือสองคน ก็จะเป็นการช่วยลดการจราจรที่หนาแน่นและลดปัญหาฝุ่นลงได้  

ลดการเผาไหม้  
ฝุ่น PM 2.5 มักเป็นปัญหาจากการเผาไหม้ ซึ่งเป็นการเพิ่มควันและมลพิษทางอากาศ ดังนั้นควรช่วยกันงดกิจกรรมการเผาไหม้ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเผาขยะ เผาใบไม้ กองไม้ เผากระดาษ หรือแม้กระทั่งการสูบบุหรี่!   

คุณจะเตรียมพร้อมดูแลตนเองและทุกคนในครอบครัวอย่างดีเพียงใด โรคภัยหรืออุบัติเหตุที่ควบคุมได้ยากก็ยังวนเวียนอยู่รอบตัว แต่เราสามารถเพิ่มเติมความอุ่นใจให้กับทุกด้านของชีวิตสำหรับทุกคนในครอบครัวได้ ด้วยประกันภัยประเภทต่าง ๆ ของ เจมาร์ทประกันภัย อย่างเช่น ประกันอุบัติเหตุ Smart PA ที่เหมาะสำหรับวัยทำงาน อายุตั้งแต่ 18-60 ปี ที่คุ้มครองไปถึงค่ารักษาพยาบาล อีกทั้งยังมีเงินชดเชยหากเข้ารับการรักษาในฐานะผู้ป่วยใน หรือ ประกันที่จะมาช่วยดูแลเด็ก ๆ อย่าง ประกันสุขภาพเด็ก Baby Smile Child Care ที่ให้ความคุ้มครอง 9 กลุ่มโรคร้ายแรงที่พบบ่อยในเด็ก หรือ ประกันอุบัติเหตุ วัยใส ที่ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุ ครอบคลุมกรณีกระดูกแตกหัก ไฟไหม้ น้ำร้อนลวก สนใจสอบถามได้ที่ เจมาร์ท ประกันภัย โทร. 02 099 0555 ต่อ 8888 หรือที่ LINE : @jaymartinsurance ค่ะ 

 By Jaymart Content Team : RIYA