ข่าวสารและบทความ

12 เทคนิคดูแลบ้านให้ปลอดภัย เมื่อต้องไปเที่ยวต่างประเทศ

12 เทคนิคดูแลบ้านให้ปลอดภัย เมื่อต้องไปเที่ยวต่างประเทศ

เมื่อเดินทางไปต่างประเทศไม่ว่าจะไปเที่ยวหรือไปทำงาน นอกจากควรเตรียมกระเป๋าและแผนเดินทางอย่างดีแล้ว การเตรียมการดูแลบ้านก่อนออกเดินทางก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เจมาร์ท ประกันภัย  มี 12 เทคนิคดูแลบ้านให้ปลอดภัย เมื่อต้องไปเที่ยวต่างประเทศ มาฝากกันค่ะ

 

 

1.ปิดและล็อค 

อย่าลืมปิดและล็อคประตูหน้าต่าง ไม่ว่าจะเป็นช่องทางใด ๆ ที่จะเข้าสู่ตัวบ้านได้ ไม่ว่าจะเป็นบริเวณ ระเบียง ครัวนอกบ้าน สวนในร่ม ฯลฯ ที่บางครั้งอาจเป็นจุดที่เราลืมได้ หรือแม้แต่ช่องลม หรือช่องระบายอากาศเล็ก ๆ ก็จะต้องปิดให้เรียบร้อยทุกจุด เพราะมิจฉาชีพอาจใช้วิธีการที่เราคิดไม่ถึงก็ได้ค่ะ

2.เก็บกุญแจ
อย่าลืมเก็บกุญแจบ้านไว้กับตัวหรือไว้ในที่ปลอดภัย โดยเฉพาะหากปกติคุณชอบซ่อนกุญแจไว้นอกตัวบ้าน เช่น ใต้กระถางดอกไม้ หรือ ตู้รับจดหมาย ก็อย่าลืมเก็บกุญแจจากจุดต่าง ๆ นั้นกลับมาไว้กับตัวในช่วงที่ไม่อยู่บ้าน เพราะมิจฉาชีพอาจมาสอดส่องจนรู้แล้วก็ได้ว่ามันอยู่ที่ไหน เพียงแค่รอเวลาเหมาะ ๆ อยู่เท่านั้น หรือคุณอาจฝากกุญแจไว้กับผู้ที่ไว้ใจได้อย่างเช่นญาติหรือเพื่อนสนิทก็ได้ เผื่อหากมีเหตุด่วนอะไรกับบ้าน พวกเขาก็จะสามารถเข้ามาช่วยดูแลได้ทันทีค่ะ

3.จัดการระบบไฟฟ้า

เมื่อต้องเดินทางหลายวัน ต้องเช็กระบบไฟฟ้าให้มั่นใจเพื่อไม่ให้เกิดกระแสไฟฟ้ารั่วหรือไฟฟ้าลัดวงจรขณะที่คุณไม่อยู่ได้ โดยให้ปิดระบบไฟที่ไม่จำเป็น เช่น  ปิดสวิตช์ไฟในบ้าน ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้ระหว่างไม่อยู่ เช่น โทรทัศน์ กาต้มน้ำ พัดลม ฯลฯ แต่หากเป็นเครื่องใช้ที่จำเป็นต้องใช้ไฟฟ้า และถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานลอดเวลา ก็สามารถเสียบไว้ได้ เช่น กล้องวงจรปิดและระบบอินเตอร์เน็ต ตู้เย็น หรือ เครื่องออกซิเจนสำหรับตู้ปลา เป็นต้น
 

4.จัดการระบบน้ำ

เช่นเดียวกับระบบไฟฟ้า การจัดการระบบน้ำก็สำคัญค่ะ ก่อนที่จะเดินทางไปต่างประเทศ หรือไม่อยู่หลาย ๆ วัน ให้ปิดวาล์วน้ำ ปั๊มน้ำ เพื่อป้องกันปัญหาท่อน้ำแตกหรือน้ำรั่วซึมขณะที่เราไม่อยู่บ้าน 
 

5.ติดตั้งกล้องวงจรปิด

จริง ๆ แล้วทุกบ้านควรมีกล้องวงจรปิดอยู่แล้ว หากบ้านของคุณยังไม่มีกล้องวงจรปิด และต้องเดินทางไกล ก็ถือเป็นโอกาสดีที่จะเริ่มติดตั้งไว้ และแม้ว่าคุณจะอยู่ต่างประเทศก็ยังสามารถเปิดสอดส่องดูบ้านได้
 

6.ติดตั้งระบบเปิดปิดไฟอัตโนมัติ

เมื่อเดินทางไกล หรือไปต่างประเทศ คุณควรเปิดไฟบริเวณที่สำคัญของบ้านทิ้งไว้ เพื่อให้มีบรรยากาศเหมือนเวลาปกติ แต่ถ้าคนตั้งใจสังเกตก็อาจจะรู้อยู่ดีว่า เป็นการเปิดทิ้งไว้ ไม่มีคนเปิดปิด ดังนั้นการติดตั้งระบบเปิดปิดไฟอัตโนมัติจึงเป็นทางเลือกที่ดี เพราะนอกจากจะช่วยอำนวยความสะดวกให้คุณในการตั้งเวลาเปิดปิดให้เหมือนมีคนอยู่บ้านได้แล้ว ยังช่วยประหยัดไฟให้กับคุณได้อีกด้วย
 

7.จัดการบ้านและซักผ้า

ก่อนออกเดินทาง ควรจัดการทำความสะอาดภายในบ้าน และจัดบ้านให้เรียบร้อย เพื่อไม่ให้เป็นที่สะสมของฝุ่นละอองและเชื้อโรค โดยเฉพาะควรซักผ้าที่ใช้แล้วทั้งหมดก่อนเดินทาง เพื่อป้องกันโอกาสเกิดเชื้อโรคจากเสื้อผ้าที่อับหรือเปียกชื้น และเป็นที่มาของเชื้อราและคราบฝังแน่น ซึ่งนอกจากจะช่วยเรื่องความสะอาดแล้ว เมื่อคุณกลับมาจากการเดินทางเหนื่อย ๆ ก็จะได้ไม่ต้องกังวลเพิ่มเติมกับภาระที่ทิ้งค้างไว้ภายในบ้านอีกด้วย  
 

8.จัดการสวนและตัดหญ้า

นอกจากการทำความสะอาดภายในบ้านแล้ว ยังควรทำความสะอาดบริเวณนอกบ้านให้เรียบร้อยเช่นกันค่ะ เพื่อไม่ให้บ้านดูโทรมเวลาที่ไม่อยู่หลายวัน และโดยเฉพาะบ้านที่มีสวน ควรตัดหญ้าให้สั้นและตัดแต่งใบและกิ่งของต้นไม้ดอกไม้ให้เรียบร้อย เพราะเมื่อทิ้งไว้หลายวัน หญ้าที่สูง หรือใบไม้ที่หล่นมากอง ก็สามารถทำให้คนมองออกได้ง่ายว่าไม่มีคนอยู่บ้าน และอย่าลืมติดตั้งเครื่องรดน้ำอัตโนมัติไว้เพื่อให้น้ำกับต้นไม้ดอกไม้ของคุณด้วยนะคะ
 

9.ฝากบ้าน

ฝากญาติหรือเพื่อนบ้านให้ช่วยคอยสอดส่องบ้าน โดยหากเป็นเพื่อนบ้านที่สนิทกัน ก็อาจฝากให้เพื่อนบ้านช่วยเข้ามา รดน้ำต้นไม้ ให้อาหารปลา หรือเดินเข้ามาเปิดปิดไฟภายในบ้าน เพื่อทำให้บ้านดูปกติมากที่สุดเหมือนมีคนอยู่ หรืออีกทางเลือกก็คือการฝากบ้านไว้กับตำรวจ ในโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ นั่นเองค่ะ

10.แชร์อย่างระวัง

การไปเที่ยวต่างประเทศ เป็นเรื่องที่แชร์ได้ แต่ต้องระมัดระวัง ไม่ควรโพสต์อะไรที่สื่อว่าบ้านไม่มีคนอยู่ เช่น “ไปกันหมดบ้านเลยนะจ๊ะ” หรือ “บ๊ายบายกรุงเทพฯ อีก 10 วันเจอกัน” เพราะในยุคนี้ ผู้ไม่ประสงค์ดี สามารถติดตามสอดส่องดูเราผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์คได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นโพสต์ข้อมูลอะไรต้องระวัง 
 

11.ฝากของมีค่า

สำหรับผู้ที่มีของมีค่าอยู่ในบ้าน ไม่ว่าจะเป็น เงินสด ทอง หรือ เครื่องประดับมีค่าต่าง ๆ หากคุณไม่มั่นใจที่จะเก็บในบ้าน ก็อาจนำไปฝากญาติพี่น้องที่ไว้ใจได้ไว้ และอีกทางเลือกที่สะดวกปลอดภัยไม่ต้องรบกวนใคร ก็คือการเช่าตู้เซฟของธนาคารนั่นเองค่ะ
 

12.ฝากน้องหมาน้องแมว

สำหรับผู้ที่มีสัตว์เลี้ยงก็อย่าลืมเตรียมการดูแลด้วยนะคะ โดยหากเป็นปลาตู้ ก็อาจฝากให้เพื่อนบ้านหรือญาติมาช่วยให้อาหารในบ้านได้ แต่หากเป็นน้องหมาน้องแมว คุณควรนำไปฝากเลี้ยง เพราะขณะที่คุณไม่อยู่ อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ดังนั้น ดังนั้น อีกทางเลือกที่ดี ก็คือการนำไปฝากที่โรงพยาบาลสัตว์ หรือโรงแรมน้องหมาน้องแมว ที่สามารถดูแลน้องหมาน้องแมวอย่างถูกวิธี ปลอดภัย สบายใจค่ะ
 

หากคุณดูแลได้ครบทุกข้อแล้ว เชื่อว่าบ้านของคุณจะปลอดภัย เที่ยวได้อย่างไร้กังวลแน่นอนค่ะ และนอกจากการดูแลบ้านก่อนเดินทางแล้ว การเตรียมพร้อมก่อนการเดินทาง ก็เป็นอีกสิ่งที่สำคัญที่จะช่วยให้การเดินทางราบรื่นนะคะ

และแม้ว่าเราจะเตรียมตัวดีขนาดไหน สิ่งไม่คาดคิด ก็อาจเกิดขึ้นได้เสมอ ดังนั้น เราควรพิจารณาตัวช่วยเพิ่มความอุ่นใจ อย่าง ประกันการเดินทางต่างประเทศ ของเจมาร์ท ประกันภัย ไว้ด้วยนะคะ เพราะคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ รวมถึงการกลับมารักษาตัวต่อในประเทศ ทั้งยังคุ้มครองการล่าช้าของเที่ยวบิน รวมถึงกรณีกระเป๋าเดินทางล่าช้า สูญหาย หรือเสียหาย และการถูกบอกเลิกการเดินทาง เพื่อให้คุณได้ท่องเที่ยวอย่างสบายใจ โดยมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินให้คำปรึกษาเรื่องการเดินทางตลอด 24 ชั่วโมง สอบถามเพิ่มเติมได้ที่โทร. 02 099 0555 ต่อ 4262 หรือที่ LINE : @jaymartinsurance ค่ะ

By JAYMART Content Team : RIYA