ข่าวสารและบทความ

6 ของที่ห้ามนำขึ้นเครื่องบิน

6 ของที่ห้ามนำขึ้นเครื่องบิน

เวลาจะเดินทางโดยเครื่องบินทีไร เราก็มักจะมีคำถามกันเสมอว่า อะไรที่นำขึ้นเครื่องไปได้ หรือไม่ได้บ้าง หรือ อะไรที่พกติดตัวขึ้นเครื่องไม่ได้ หรืออะไรที่โหลดไว้ใต้เครื่องไม่ได้ วันนี้เราได้อัพเดทรวบรวมข้อมูลของที่ห้ามนำขึ้นเครื่องบินมาให้ศึกษากันก่อนขึ้นเครื่องค่ะ จะได้ไม่ต้องมาเสียอารมณ์ หรือเสียจังหวะในการเดินทาง หากต้องถูกตรวจสอบหรือดำเนินการใด ๆ ขึ้นมา ที่สนามบิน

 

ของที่ห้ามนำขึ้นเครื่องบิน : 1 : ของเหลว เจล สเปรย์ ที่มากเกินไป

>> ของเหลว เจล สเปรย์ ไม่ว่าจะเป็น โฟมล้างหน้า เจลอาบน้ำ แชมพู ครีมทาผิว ยาสีฟัน สเปรย์ ลิปกลอส มาสคาร่า น้ำหอม น้ำยาต่าง ๆ ฯลฯ หากต้องการพกขึ้นเครื่องบิน จะต้องมีปริมาณไม่เกิน 100 มล. ต่อ 1 ชิ้น และรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 1,000 มล. นะคะ ที่สำคัญ ภาชนะที่บรรจุ ก็จะต้องไม่เกิน 100 มล. ด้วยเช่นกัน แม้ว่าเราจะใส่ไม่ถึง 100มล.ก็ตาม  และจะต้องนำทุกสิ่งอย่างนี้รวมกันไว้ในถุงพลาสติกใสแบบ Zip-lock ขนาด 20 x 20 ซม. เพียงถุงเดียวเท่านั้นด้วยนะคะ

 

>> แต่หากคุณซื้อ ของเหลว เจล สเปรย์ ที่เป็นสินค้าของร้านปลอดภาษี หลังเข้าเกทไปแล้ว ก็สามารถนำติดตัวไปได้ แต่ต้องบรรจุในถุงที่ปิดสนิทจนกว่าจะถึงสนามบินปลายทางเท่านั้น

 

>> ของเหลว เจล สเปรย์ ที่ได้รับยกเว้นการกำหนดปริมาตร แต่ต้องมีปริมาณเหมาะสมกับระยะเวลาเดินทาง ได้แก่ ยา โดยต้องมีใบรับรองแพทย์ ระบุชื่อผู้โดยสาร และ อาหารหรือนมสำหรับเด็กทารกที่จำเป็นต้องรับประทานระหว่างเที่ยวบิน

 

ของที่ห้ามนำขึ้นเครื่องบิน : 2 : อาวุธ และ ของมีคม

>> ของที่เราไม่สามารถพกขึ้นเครื่องไปได้เลย ก็คือของมีอันตราย หรือมีลักษณะอันตรายต่าง ๆ ค่ะ อย่างเช่น อาวุธ ไม่ว่าจะเป็นอาวุธจริง หรือของเล่น เช่น ปืน มีด ดาบ กระบอง สนับมือ ไม้ช็อตยุงไฟฟ้า เครื่องช็อตไฟฟ้า หรือแม้แต่ปืนเด็กเล่น และอีกประเภทก็คือ ของมีคม เช่น กรรไกร คัตเตอร์ ไขควง เบ็ดตกปลา เข็มเย็บผ้า เข็มฉีดยา มีดโกนหนวด หรือแม้แต่ กรรไกรตัดเล็บ ก็พกขึ้นเครื่องไปไม่ได้นะคะ

 

>> แต่ถ้ามีอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้งานจริง ๆ ก็สามารถนำโหลดใต้เครื่องไปได้ค่ะ แต่ก็ต้องไม่เป็นอาวุธอันตรายนะคะ 

 

>> กรณีต้องใช้เข็มฉีดยาเพื่อการรักษา เช่น ผู้ป่วยเบาหวาน ที่จำเป็นต้องใช้เข็มฉีดยาอินซูลิน ก็สามารถพกเข็มฉีดยาขึ้นเครื่องไปได้ โดยต้องมีใบรับรองแพทย์มาแสดงด้วยค่ะ

 

ของที่ห้ามนำขึ้นเครื่องบิน : 3 : สารอันตราย วัตถุอันตราย

>> ของที่เราไม่สามารถนำขึ้นเครื่องไปได้เลย อีกประเภท ก็คือ สารอันตราย วัตถุอันตราย วัตถุไวไฟ วัตถุระเบิด ตัวอย่างเช่น ไนโตรเจนเหลว สารพิษ ยาฆ่าแมลง สารหนู ไซยาไนด์ แอมโมเนียไนเตรท แคลเซียมเปอร์ออกไซด์ ธาตุยูเรเนียม วัตถุนำเชื้อโรคทางชีวภาพ น้ำกรด ปรอท แบตเตอรีที่บรรจุสารกัดกร่อน  สีน้ำมัน สีสเปรย์ ทินเนอร์ พลุ ประทัด ไฟแช็ก บุหรี่ไฟฟ้า ฯลฯ

 

ของที่ห้ามนำขึ้นเครื่องบิน : 4 : Power Bank ที่มีค่าความจุไฟฟ้าเกิน 32,000 mAh

>> เราไม่สามารถนำ Power Bank ใส่กระเป๋าที่จะโหลดไปใต้เครื่องอย่างเด็ดขาดเลยนะคะ

 

>> แต่เราสามารถพก Power Bank ขึ้นเครื่องไปได้ โดยต้องเป็น Power Bank ที่มีค่าความจุไฟฟ้าไม่เกิน 32,000 mAh ต่อเครื่อง และพกไปได้ ไม่เกินคนละ 2 เครื่อง หากเป็น Power Bank ที่มีค่าความจุไฟฟ้าไม่เกิน 20,000 mAh สามารถพกได้ถึงคนละ 10 เครื่องเลยค่ะ

 

ของที่ห้ามนำขึ้นเครื่องบิน : 5 : อาหารสด และ อาหารกลิ่นแรง

>> อาหารสด เช่น เนื้อแช่แข็ง หรือ อาหารที่มีกลิ่นแรง เช่น ปลาหมึกแห้ง น้ำพริก หรือ ทุเรียน ก็เป็นสิ่งที่นำขึ้นเครื่องไม่ได้เช่นกันค่ะ แม้ว่าบางสายการบินอาจยังไม่มีข้อห้ามที่ชัดเจน แต่ด้วยมารยาท ก็เป็นสิ่งที่พึงปฏิบัติอยู่แล้วนะคะ

 

>> แต่ถ้าอยากจะนำอาหารไปด้วยจริง ๆ ก็สามารถแพคให้ดี แล้วโหลดใต้เครื่องได้ค่ะ แต่ทั้งนี้ ก็ต้องศึกษากฎของสนามบินแต่ละแห่งด้วยนะคะ ว่ามีข้อห้ามอาหารประเภทใดบ้างหรือไม่

 

ของที่ห้ามนำขึ้นเครื่องบิน : 6 : สัตว์มีพิษ สัตว์ดุร้าย

>> เราไม่สามารถนำสัตว์มีพิษ หรือ สัตว์ดุร้าย ขึ้นเครื่องบินไปได้ อย่างเช่น แมงมุมพิษ หรือ งู รวมไปถึงสัตว์ขนาดใหญ่ และ สัตว์สงวน เพราะนอกจากอาจเป็นการรบกวนผู้อื่นแล้ว ก็ยังเป็นการทำผิดกฎหมายอีกด้วยนะคะ

 

>> กรณีต้องการนำสัตว์เลี้ยงเดินทางไปด้วย สามารถนำขึ้นเครื่องได้เฉพาะบางสายการบินเท่านั้น ซึ่งต้องสอบถามข้อมูลรายละเอียดของแต่ละสายการบินให้ดีก่อนว่าอนุญาตหรือไม่ และมีเงื่อนไข หรือข้อจำกัดอย่างไรบ้างค่ะ

ข้อมูลที่เราได้รวบรวมมาให้นี้ เป็นข้อมูลของสายการบินโดยทั่วไปค่ะ ซึ่งก่อนเดินทาง ก็ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากสายการบินที่เราจะใช้บริการด้วยนะคะ

 

และแน่นอนว่าการเตรียมพร้อมในการเดินทางเป็นสิ่งสำคัญ แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็อาจเกิดขึ้นได้ในทุกการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุ หรือการโจรกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะสาว ๆ ที่สนุกกับการท่องเที่ยวด้วยตัวเองคนเดียว จึงควรพิจารณาตัวช่วยเพิ่มความอุ่นใจ นั่นก็คือ ประกันภัยผู้หญิง ของ เจมาร์ท ประกันภัย อย่างเช่น แพ็คเกจ Lady & The City ที่ได้รับการออกแบบมาให้ดูแลทรัพย์สินของสาว ๆ ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะจากการถูกปล้นทรัพย์ ชิงทรัพย์ในสถานที่ต่าง ๆ ทั้งยัง ให้ความคุ้มครองบ้านอยู่อาศัย พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉินภายในบ้านอีกด้วย และเตรียมพบกับประกันการเดินทาง เร็วๆนี้ จะไปเที่ยวไหน ก็สบายใจไปอีกขั้นค่ะ

 

หากเตรียมพร้อมแล้ว ก็เตรียม แพคกระเป๋าเดินทางไปเที่ยวกันได้เลยค่ะ Bon Voyage !

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือข้อมูลเกี่ยวกับประกันอุบัติเหตุอื่นๆ หรือ Lady & The City สามารถติดต่อ เจมาร์ท ประกันภัย ได้ที่เบอร์ 02-099-0555 หรือ Line@ : @jaymartinsurance เรายินดีให้บริการค่ะ